Reuse (การใช้ซ้ำ) และ Recycle (การนำกลับมาใช้ใหม่) — ทำไมจึงจำเป็นต้องคิดถึง R2?
คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าของคุณที่คุณได้โยนมันทิ้งไปหรือบริจาคให้กับผู้ขายที่เก็บรวบรวมวัสดุแบบฟรีๆ หรือหากคุณเป็นตัวแทนฝ่ายบริหารของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ห้องทดลองวิจัย หรือธุรกิจการจัดการของเสีย/ธุรกิจรีไซเคิล คุณเคยคิดถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้นถูกกำจัดอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมบ้างหรือไม่?
ณ ปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกามีขยะอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 300-400 ล้านชิ้นต่อปี – และขยะเหล่านั้นต้องไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง ขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากถูกส่งไปฝังกลบหรือถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย หรือไนจีเรีย ด้วยคาดหวังว่าจะถูกนำไปรีไซเคิล แต่ขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากกลับได้รับการจัดการอย่างไม่เหมาะสม และถูกปล่อยทิ้งจนเป็นอันตรายต่อผู้คนในท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ขนาดมหึมาที่เรากำลังประสบอยู่ทั่วโลกอาจก่อให้เกิดหายนะในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราการใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก อีกทั้งยังมีการรายงานอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณีการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลหรือการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่ถูกต้อง ความรู้ทางเทคนิค ข้อกำหนดและระเบียบปฏิบัติจึงมีความจำเป็นเพื่อให้มีการป้องกันการเข้าถึงหรือกู้คืนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ เริ่มมีความตระหนักและใส่ใจเกี่ยวกับการรีไซเคิล การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการรักษาความลับของข้อมูล มาตรฐานสำหรับการจัดการประเด็นท้าทายด้านการรีไซเคิลสินค้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง มาตรฐาน Responsible Recycling หรือที่เรียกกันว่า R2 ซึ่ง ณ ปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่นที่สาม มาตรฐาน R2 ถูกพัฒนาขึ้นโดยกลุ่มของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการรีไซเคิลและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ มาตรฐานการรับรอง R2 เป็นหลักการปฏิบัติและแนวทางโดยสมัครใจ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมและประเมินวิธีปฏิบัติและการปฏิบัติงานสำหรับผู้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มาตรฐาน R2v3 ระบุให้ต้องมีการนำระบบการบริหารจัดการไปปฏิบัติสำหรับกำกับดูแลการดำเนินการต่างๆที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของคนงาน รวมถึงการบริหารจัดการขั้นปลายของซากวัสดุและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมาตรฐานนี้จะครอบคลุมถึงข้อบังคับทางกฎหมายของผู้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่าที่ไปแทนที่ข้อบังคับดังกล่าว นอกจากนี้ มาตรฐาน R2v3 ให้ความสำคัญกับการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) มากกว่ากระบวนการปรับปรุงฟื้นฟู (Recovery)หรือกำจัดทำลาย (Disposal) ในความมุ่งมั่นพยายามในระดับโลกในอันที่จะลดปริมาณของขยะอิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมการทดสอบที่ได้มาตรฐาน รวมถึงระเบียบมาตรฐานด้านการจัดระดับเพื่อให้เกิดความสอดคล้องตรงกันในภาคอุตสาหกรรม
ด้วยการเปลี่ยนแปลงจากมาตรฐาน R2 เวอร์ชันก่อนหน้า มาตรฐาน R2 เวอร์ชัน R2v3 นี้ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลของผู้บริโภคผ่านการควบคุมความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เพิ่มน้ำหนักให้กับข้อกำหนดต่างๆในการปกป้องวัสดุต่างๆจากผู้จำหน่ายปลายน้ำ และอธิบายข้อกำหนดและความคาดหวังให้กระจ่างชัดเจนยิ่งขึ้น มาตรฐาน R2v3 ตระหนักดีว่าอาจมีวิธีที่มีประสิทธิผลมากกว่าหนึ่งวิธีในการที่จะบรรลุผลสำเร็จ ดังนั้นจึงมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์มากกว่าการกำหนดวิธีปฏิบัติหรือขั้นตอนที่เฉพาะเจาะจง
ประโยชน์ที่สำคัญของการนำไปปฏิบัติและการได้รับการรับรองตามมาตรฐาน R2v3
- สนับสนุนและส่งเสริมความปลอดภัยและการฟื้นฟูที่มีประสิทธิผล รวมถึงการใช้ซ้ำ (reuse) วัสดุและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
- ให้แม่แบบสำหรับการติดฉลากที่ได้มาตรฐาน ข้อกำหนดด้านการทดสอบ และการจัดระดับทั้งด้านหน้าที่การทำงานและสภาพความสวยงามของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้วที่มีศักยภาพในการนำกลับมาใช้ใหม่หรือตลาดขายต่อที่ได้รับการรับรอง
- หน้าที่ความรับผิดชอบและการควบคุมปลายน้ำของห่วงโช่อุปทานของห่วงโซ่การรีไซเคิล
- ลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัย
- แสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องกับกฎหมายทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
- ลดภาระรับผิดชอบ และลดภาระค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับผู้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิล
- ช่วยเหลือผู้ผลิตชิ้นส่วน (OEM’s) ด้วยความระมัดระวัง สำหรับซากวัสดุและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- สร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณะผ่านการทบทวนโดยบุคคลที่สามที่ได้รับการรับรอง
มาตรฐาน R2v3 มิได้มีไว้เพียงเพื่อสำหรับผู้คนเท่านั้น หากแต่สำหรับสิ่งแวดล้อมด้วย คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ว่าการรับรอง R2v3 สามารถช่วยให้กระบวนการของคุณคล่องตัวขึ้นและเพิ่มชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของคุณได้อย่างไร – ติดต่อ PJR วันนี้!
(248) 358-3388
Call PJR Today!